หลังจากที่สร้างความสงสัยให้กับบรรดาขาเม้าท์อยู่นานว่าทำไมสองนักแสดงอารมณ์ดี ใบเฟิร์น พัสกร และ นิกกี้ ณฉัตร ถึงได้ไม่สนิทสนมกันเหมือนเมื่อก่อน แถมโมเมนต์น่ารักๆ ที่เคยมีร่วมกันก็แทบจะหายเข้ากลีบเมฆ
ล่าสุดทางด้านของ ใบเฟิร์น พัสกร ก็ได้ออกมาไขข้อข้องใจดังกล่าวกลางงาน Thai Football The Future is You โดยเธอยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกน้อยใจและเป็นเหตุผลให้ต้องตัดสินใจบล็อกอินสตาแกรมของหนุ่มนิกกี้จริง แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เธอก็ได้ปลดล็อคอีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนเรื่องที่หลายคนมองว่าเธอกับ นิกกี้ มีปัญหากันเพราะฝ่ายชายกำลังคุยอยู่กับ ก้อย อรัชพร นักแสดงสาวรุ่นน้อง ใบเฟิร์น พัสกร ก็ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เนื่องจากเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกกับ นิกกี้ ไปมากกว่าคำว่าเพื่อนมาตั้งแต่แรก
มีข่าวว่าเราทะเลาะกับ นิกกี้ ณฉัตร ถึงขั้นเลิกติดตามอินสตาแกรมกันเลย ?
"ตอนนี้ไม่ได้บล็อกแล้วค่ะ ไม่ได้บล็อคมาสักพักหนึ่งแล้ว เหมือนพอเราได้มานั่งทบทวนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเพื่อนๆ อย่างเช่น แจ็ค แฟนฉัน หรือ ดีเจมะตูม ซึ่งสองคนนี้เขาจะเป็นคนที่เราสนิทมาก ดังนั้นถ้าหากช่วงไหนเรากำลังงอน สองคนนี้เขาจะรู้ทันทีว่าต้องทำยังไงถึงเราจะหาย แต่สำหรับนิกกี้ เอ่อ...พอเรามานั่งทบทวนดูแล้ว เราก็รู้สึกแหละว่าเขาเป็นเพื่อน แต่เขาไม่ได้เป็นเพื่อนที่สนิทมากจนถึงขั้นรู้ใจเราขนาดนั้น บวกกับเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องหลายๆ เรื่องที่ทับถมกันมานานพอสมควรและไม่เคยได้เคลียร์กัน ซึ่งนิกกี้ก็ไม่ได้ผิด ไม่ได้มีใครผิดอยู่แล้ว มันเลยทำให้เราคิดได้ว่า แล้วจะไปอะไรกับนิกกี้มันทำไม แค่นั้นเองค่ะ"
พอจะบอกได้ไหมเรื่องที่เรางอนคือเรื่องอะไร ?
"มันนานมากแล้วค่ะ นานมากแล้ว มีทั้งวันก่อน มีทั้งก่อนวันเกิด คือมันทับซ้อนกันเยอะมาก"
ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นที่คนเข้าใจว่าเป็นเพราะเขาจีบ ก้อย อรัชพร ไม่ใช่ไหม ?
"เราเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้ก่อนที่เขาจะเปิดตัวไม่นานค่ะ ซึ่งเอาจริงๆ เราเองก็ไม่ได้อยากจะออกมาพูดแล้วนะคะ เพราะหนึ่งเลยคือเราไม่ได้คุยกับนิกกี้ และสองเราไม่ได้รู้เลยว่าความสัมพันธ์ของเขาสองคนมันไปในระดับไหนแล้ว สามคือเฟิร์นไม่ได้รู้จักน้องก้อยเป็นการส่วนตัว อันนี้ยกตัวอย่างในมุมมองเรานะ คือถ้าหากมีใครสักคนมาจีบมาเรา และคนคนนี้ก็มีข่าวกับอีกคนหนึ่งตลอด เราก็อาจจะรู้สึกได้ว่ามันอะไรหนักหนา ซึ่งน้องก้อยเขาอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นก็ได้ แต่ถ้าเป็นเราเราคิด"
แสดงว่าเราค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้ ?
"ใช่ค่ะเพราะเราเป็นห่วงความรู้สึกเขา เราไม่ได้รู้จักกับน้องก้อย เราไม่รู้ว่าเขานิสัยใจคอเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นการของ แจ็ค แฟนฉัน คนนั้นเขาไม่อะไรหรอก แต่สำหรับน้องก้อยคือเราไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว เราเลยไม่อยากให้นิกกี้มาเป็นพันธะอะไรกับเรา แค่นั้นเองค่ะ"
เหมือนเรากลัวว่านิกกี้จะถูกเข้าใจผิด ?
"ไม่ได้ถึงขนาดนั้นค่ะ เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ได้รู้จักเขาแค่นั้นเอง และมันจะดีกว่าไหมถ้าเขาเริ่มมูฟออนหรือเดินหน้าไปแบบสวยๆ งามๆ เพราะที่ผ่านมาเรากับนิกกี้ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้น"
แต่ก็มีหลายคนนะที่คิดว่าเราน้อยใจกับความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่ ?
"นี่คะ วันนี้เราถึงได้เลือกที่จะออกมาอธิบาย เราไม่ได้น้อยใจไม่ได้อะไรเลย แต่มันเป็นแค่ความงอน ความขี้งอนเพื่อนของเราเฉยๆ ซึ่งกับเพื่อนคนอื่นเราก็เป็น"
แสดงว่าตอนนี้เราหายงอนแล้วถูกต้องไหม ?
"เราไม่ได้เจอกันมากกว่าค่ะ เราเฉยๆ เพราะอย่างที่บอกเขาเองก็ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทที่เราจะต้องเจอกันตลอดเวลา หรือรู้ใจกันขนาดนั้น แต่ถ้าเจอกันก็ยังทำงานด้วยกันได้ค่ะ หยอกล้อกันได้ปกติ"
เราบอกว่าไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่ก่อนหน้านี้เราสองคนดูสนิทกันมากเลยนะ ?
"เพื่อนสนิทในความหมายของเราคือต้องเจอกันตลอด โทรหากันตลอด เป็นแก๊งที่ไปเที่ยวด้วยกันตลอด ซึ่งนิกกี้ก็เป็นหนึ่งในเพื่อนที่อยู่ในสายงานเดียวกันทำงานด้วยกัน แต่เราก็ไม่ได้สนิทกันมากเหมือนที่สนิทกับ ดีเจมะตูม หรือ แจ็ค แฟนฉัน"
แต่ก็มีคนเข้าใจว่านิกกี้เขาเคยจีบเรา ?
"เขาไม่ได้จีบ พี่ๆ ทุกคนก็น่าจะมองออก เขาไม่ได้จีบอยู่แล้ว มันเป็นแค่การทำงาน คือพอเรามีคอนเทนต์ด้วยกันและคนก็อาจจะรู้สึกชอบในเคมี มันก็แค่นั้นเอง แต่เรามองออกว่าไม่ได้มีการจีบกันตั้งแต่ต้น รวมถึงไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากไปกว่าคำว่าเพื่อนเลย"
อยากจะฝากบอกอะไรถึงนิกกี้บ้างไหม ?
"ไม่ได้บล็อกแล้วนะคะ ถ้าหากเจอกันก็คงได้คุย แต่ถามว่าจะโทรหาไหม เอ่อ...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโทรหาทำไม แต่ถ้าเคลียร์ผ่านตรงนี้เราเชื่อว่าเขาน่าจะดูค่ะ"
หัวใจของเราตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
"แฮปปี้ดีค่ะ ชอบทำงาน แต่มีคนคุยอยู่เหมือนกัน"
"ก็คือหลังจากที่เหตุการณ์นั้นมันผ่านพ้นไป เราเองก็ได้ตัดสินใจบอกเขาอย่างที่พี่ๆ ทุกคนทราบ ว่าเราจะขอหยุดความสัมพันธ์ตรงนั้นเอาไว้ก่อน เพราะเราไม่สามารถเข้าไปเป็นมือที่สามของใครได้จริงๆ เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ซึ่งเขาก็เข้าใจ แต่หลังจากที่เขาไปเคลียร์เรื่องราวต่างๆ ของเขาแล้ว จริงๆ เขาก็ไม่ได้ไปไหนนะคะ เขายังคงเป็นเพื่อนในแก๊งในกลุ่มอยู่ตลอดเวลา และเขาก็ยังเป็นอีกคนหนึ่งที่คอยให้คำปรึกษาที่ดีๆ มาตลอด มีความเป็นห่วงเป็นใยให้กันมาตลอด ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เรารู้สึกว่าคบหาได้ในระดับหนึ่ง แต่ถามว่าจะกลับไปเป็นเพื่อนหรือขยับความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้ได้ไหม บอกตรงๆ เรายังไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นค่ะ ปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาดีกว่า จะมีก็ได้ ไม่มีก็ได้"
ใจจริงเราเองเปิดใจให้คนเข้ามาบ้างไหม ?
"ก็มีคุยบ้างค่ะ เราไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง เราคุยได้กับทุกคน"
ขอบคุณข้อมูลละภาพประกอบจาก : sanook,Wirut D.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น