วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ดีเจมะตูม ไลฟ์เคลียร์ดราม่า รับดื่มเหล้าจริง - ขอแจง..ไม่รู้ว่าข้าวโอ๊ตเป็นดารา


       ดีเจมะตูม ไลฟ์ IG ครั้งแรกหลังติด โควิด 19 เคลียร์ รับมีการดื่มแอลกอฮอล์จริงแต่ไม่ได้ซื้อกับโรงแรม ยันไม่มีปาร์ตี้เซ็กส์หมู่-เสพยา ขอโทษสังคม ลั่นไร้จิตสำนึกเอง


จากกรณีที่ ดีเจมะตูม ติดโควิด 19 จากการจัดปาร์ตี้วันเกิดที่โรงแรมดัง ทำให้มีคนติดเชื้อจากเคสดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จากนั้นเจ้าตัวก็เจอดราม่าต่าง ๆ ตามมาไม่หยุด โดนขุดลึกไปถึงประวัติการศึกษา


ล่าสุด (4 กุมภาพันธ์ 2564) ดีเจมะตูม ได้ออกมาไลฟ์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวเป็นครั้งแรกเพื่อเปิดใจถึงประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น โดยเปิดเผยว่าการจัดงานวันเกิดนั้นเพราะอยากกินข้าวกับที่บ้านและเพื่อน ๆ มีการจองร้านอาหารเพราะเห็นว่าสวยดีและไม่เคยไป ยอมรับว่าเปิดห้องเป็นห้องใหญ่ 3 ห้อง มีคนนอนในห้องได้ 6 คน ตูมไปนอนที่โรงแรมตั้งแต่เที่ยง ส่วนงานที่ร้านอาหารช่วงเย็นก็มีแค่เพื่อนที่เชิญมา และมีเลขาคอยรับให้ว่ามีใครบ้าง ตอนแรกจองไว้ 8 ที่ จากนั้นมีเพื่อนมาเรื่อย ๆ เพิ่มเป็น 13-14 ที่ ร้านเสิร์ฟให้แบบแยกคอร์ส โรงแรมป้องกันอย่างรัดกุมแล้ว


- ยืนยันว่าไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอล์

มะตูมยืนยันว่าทางโรงแรมไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอล์เลย ส่วนแก้วไวน์ที่เห็นคือน้ำผลไม้ ซึ่งร้านปิด 3 ทุ่ม ลูกค้าคนอื่นทยอยลง ส่วนตูมยังอยู่ที่ร้านเพื่อถ่ายรูป จากนั้นก็ลงมาที่ล็อบบี้เพื่อเปลี่ยนลิฟต์ มาเจอน้อง ๆ ที่จะเอาของขวัญมาให้ จากนั้นก็ขึ้นไปที่ห้องที่จองไว้ ส่วนเพื่อนที่ไม่ได้จองห้องพักก็กลับบ้าน คนที่จองไว้ก็ขึ้นไปพักไม่ได้ขึ้นลิฟต์ไปด้วยกัน ขอไม่ใช้คำว่าปาร์ตี้เพราะตูมไม่จัดปาร์ตี้ ส่วนห้อง 3 ห้องทุกคนแยกกัน ตูมอยู่ในห้อง ทำกิจกรรมส่วนตัว มีคนโทร. มาอวยพรวันเกิด บางคนก็เอาของขวัญมาให้ที่ห้องแล้วก็กลับไปไม่ได้ค้าง ไม่ได้อยู่ด้วยกันต่อ


- ยอมรับว่ามีการดื่มเหล้าในห้องจริง

ยอมรับว่ามีการดื่มในห้องจริง แต่ไม่ใช่สั่งจากโรงแรม เป็นเหล้าที่เพื่อนหิ้วมาให้จากข้างนอก ตูมจะไม่พูดว่าใครเป็นคนเปิดเหล้า แต่ตูมเป็นเจ้าของงานก็ขอรับผิดเพียงคนเดียว พร้อมยอมรับความผิดทางกฎหมาย ตูมไม่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริง และตำรวจได้มาเก็บหลักฐานไปหมดแล้ว ยอมรับว่าผิดเอง ถ้าไม่รับของขวัญเป็นเหล้า ไม่จัดงานขึ้นก็คงไม่มีการแพร่ระบาด ซึ่งการแพร่ระบาดมันเกิดขึ้นในห้อง ซึ่งไม่สามารถเล่าได้ทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องบ้าง เพราะวิ่งเข้า-ออกหลายห้อง ตูมเข้าไปนอนตอนตี 2 แต่เพื่อนคนอื่น ๆ ยังคงดื่มต่อ และยอมรับว่ามีการเปิดเหล้าในมินิบาร์ต่อ ยอมรับว่าตูมผิด ถ้าไม่มีตูมก็คงไม่มีการแพร่ระบาด


- ไม่ได้ปกปิดข้อมูล ไทม์ไลน์ไปเชียงใหม่

หลังทราบข่าวจากเพื่อนว่าเขาติดโควิดก็รีบไปตรวจทันที พอรู้ว่าตัวเองติดหลังจากนั้นก็รีบแจ้งข่าวทันที ไม่ได้ปกปิดแต่อย่างใด ตนรู้สึกผิดจริง ๆ ที่ไปกินข้าวในวันเกิดของตัวเอง ส่วนเรื่องไทม์ไลน์ที่ไปที่เชียงใหม่นั้นไปจริง แต่ไม่ได้ไปเจอคนเยอะ ยืนยันว่าไม่ได้ไปสถานบันเทิง ไม่ได้ติดจากที่เชียงใหม่ แต่การแพร่เชื้อของตนนั้นเกิดขึ้นจากงานวันเกิดเพราะเพื่อนที่ติดเชื้อมาร่วมงานในวันนั้น ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อที่มางานคือ 8 คน ส่วนคนที่เหลือก็ตรวจและกักตัวแล้ว ครบ 14 วัน ไม่มีคนติดเชื้อ ตอนนี้ 8 คน ออกจากโรงพยาบาลหมดแล้ว



- ไม่ทราบว่า ข้าวโอ๊ต คือดารา

จุดนี้ต้องชี้แจงก่อนว่าทำไมก่อนหน้านั้นจึงให้สัมภาษณ์ไปว่าไม่มีดาราในงานวันเกิด เพราะไม่รู้ว่าข้าวโอ๊ตเป็นดารา ซึ่งเรารู้จักเขาในฐานะเป็นแฟนของน้องสาวที่สนิท และไม่เคยถามว่าเขาทำอาชีพอะไร ตูมเพิ่งมารู้พร้อมทุกคนว่าเขาเป็นดารา


- ขอโทษสังคม ไร้จิตสำนึกเอง

รู้สึกผิดมากจริง ๆ ถ้าไม่ทะลึ่งอยากจัดงานให้เพื่อนมาเซอร์ไพรส์ มากินข้าว จนทำให้คนติดเชื้อ ถ้าอยู่บ้านก็คงไม่มีคนติดเชื้อ คงใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ จะบอกว่าหละหลวมก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ใส่หน้ากากจริง ๆ ตอนอยู่ในห้องส่วนตัว ตูมขอให้คำว่าไร้จิตสำนึกต่อส่วนรวม เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น พร้อมรับผิดทุกอย่างจริง ๆ


- แจงทุกดราม่า

ส่วนเรื่องรูปคนที่บอกว่ามีมาร่วมงานเป็น 100 คน อันนั้นคือรูปปีที่แล้ว และเป็นคนละร้านกัน ไม่อยากให้นำรูปนั้นมาเผยแพร่อีก เพราะมีคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้รับความเดือดร้อน ส่วนที่มีคนบอกว่าตนติดตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้ว คนเลยไม่ให้เราไปร่วมงานวันเกิด คือถ้าเราติดตั้งแต่ปีที่แล้วตอนนี้ก็คงปอดพังไปแล้ว เรื่องยาเสพติดก็ไม่จริง ไม่รู้จะหาหลักฐานมาอธิบายยังไง เรียกนายแบบมาเอนเตอร์เทน ยืนยันว่าไม่มี น้อง ๆ นายแบบบางคนไม่เคยเจอ เจอแค่งานอีเวนต์ จัดงานเซ็กส์หมู่มีนายแบบมารุม 60-70 คนอันนี้ก็ไม่จริง



ประเด็นเรื่องโทร. สั่งลารุ่นพี่ในวงการ ใส่เครื่องช่วยหายใจใกล้ตายแล้ว อันนี้ก็ไม่เป็นความจริง ตั้งแต่รักษามาไม่เคยใส่เครื่องช่วยหายใจ


เรื่องประวัติการศึกษาไม่เคยพูดว่าจบจาก ม.ศิลปากร ไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยที่ไทย จบจากเยอรมนี และเรียนไม่จบปริญญาตรี เพราะออกมาก่อนเนื่องจากออกมาช่วยกิจการของคุณแม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยออกมาพูด เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว จึงมองว่าคนที่เจตนาไม่ดีกุข่าวขึ้นมา เปลี่ยนโปรไฟล์ของตนกว่า 100 ครั้ง อันนี้ตนขอโทษมหาวิทยาลัยจริง ๆ ที่โดนพาดพิง จึงอยากได้ความยุติธรรมตรงนี้


ส่วนข่าว 4-5 ปีที่แล้ว สมัยเป็นเน็ตไอดอลใครจะขุดออกมายังไงก็ได้ จะเรื่องจริงไม่จริงอันนี้ตนไม่มีเหตุต้องชี้แจง แต่หากทำให้ใครไม่พอใจ ต้องขอโทษด้วย ตนมองว่าทุกคนคงเบื่อข่าวของตนแล้ว ขนาดตนยังเบื่อแล้ว ได้รับบทลงโทษทางสังคมแล้ว



 สุดท้ายไม่มีคำพูดสวยหรูมาพูดให้คนเข้าใจ แต่ขอโทษที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ขอโทษที่ทำให้ใครหลายคนต้องเดือดร้อนกับเหตุการณ์นี้ ขอโทษต้นสังกัด ผู้ใหญ่ เพื่อนในวงการ เจ้าหน้าที่ พนักงานในโรงแรม ต้องหยุดงาน ต้องสอบปากคำ ตนทำได้ดีที่สุดแค่นี้ ณ เวลานี้ คนที่อยากขอโทษมากที่สุดคือประชาชนตาดำ ๆ ทั่วไปที่ปฏิบัติตัวตามมาตรการรัฐ แต่โรคยังไม่หมดไป ตูมโคตรละอายกับสิ่งที่ทำ ตูมสมควรได้รับคำด่าทอที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ตูมแค่เห็นแก่ตัวจริง ๆ ไม่สามารถทำให้คนที่เกลียดชัง โมโหจากสถานการณ์ในครั้งนี้มารับฟังในเวลานี้ แต่ก็มองว่าคำขอโทษจะไม่มีความหมายหากตูมไม่สำนึก ตูมไม่ได้มาขอโอกาส แต่การที่เอาตัวเองไปอยู่ในที่เสี่ยงทั้ง ๆ ที่รู้อันนี้คือสิ่งที่ผิด


ขอบคุณกำลังใจที่ถึงจะไม่เยอะ แต่มันมีความหมายกับตูมมาก ๆ ในตอนนี้ อยากบอกว่าถ้าวันใดวันหนึ่งคุณมีปัญหา ขอให้กำลังใจตรงนี้กลับไปหาคุณ อยากฝากถึงทุก ๆ คนว่า ตูมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะติดโควิด โควิดไม่ได้เลือกว่าเราเป็นใคร เกิดจากความผิดพลาดของตัวเองทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนการ์ดอย่าตก อย่าพลาดเหมือนตูม ความเสียหายที่เกิดขึ้นมันไม่คุ้มเลย ขอให้ทุกคนระวังตัว การ์ดอย่าตก งดเลี่ยงพบปะผู้คน ซึ่งหลังจากนี้หากออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะออกไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :women.kapook, Instagram dj_matoom

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น