วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

นุ๊ก สุทธิดา เปิดใจเศร้า สามีไม่เชื่อป่วยมะเร็ง ซ้ำแรงใส่ ยังไม่ตาย จะร้องไห้ทำไม


     นุ๊ก สุทธิดา เปิดใจชัด สามีไม่เชื่อว่าป่วยมะเร็ง ซ้ำพูดแรงใส่ตอนร่ำไห้กอดลูก ยังไม่ตาย จะร้องไห้ทำไม เผยสามีเชื่อว่าแอ็คติ้ง เพราะไม่อยากให้กลับต่างประเทศ


จากกรณีที่ นักร้องและนักแสดงสาว นุ๊ก สุทธิดา ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ต้องรักษาด้วยวิธีกลืนแร่และเคมีบำบัด ต้องเก็บตัวห้ามเข้าใกล้ 14 วัน ก่อนกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งขณะนี้สาวนุ๊กก็พักอาศัยอยู่กับ โก้ ธีรศักดิ์ เพื่อนสนิท ที่คอยดูแลอยู่เคียงข้าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 โก้ ธีรศักดิ์ ได้โพสต์คลิปไอจีไลฟ์ ซึ่ง นุ๊ก สุทธิดา ก็ได้เปิดใจหมดเปลือก เล่าถึงครั้งแรกที่รู้ว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็ง ตอนนั้นได้รู้สึกกลัวหลายอย่าง กลัวความตาย และกลัวจาการต้องจากลา แต่พอมาตั้งสติได้แล้ว ก็นึกได้ว่า อย่างน้อยก็ดีเสียอีกที่รู้เวลา รู้วันที่จะจากไป ในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่รู้วันตายของตัวเอง แต่ก็เป็นห่วงลูก ๆ มาก และรู้สึกสงสารลูกคนเล็ก เพราะอายุแค่ 3 ขวบ แถมเป็นลูกครึ่ง ถ้าไม่มีแม่จะเป็นอย่างไร


นุ๊ก กล่าวต่อว่า ได้ทำใจเลยตั้งแต่ตรวจ วางแผนทุกอย่างเอาไว้ในใจแล้วว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และไม่เครียด ไม่ร้องไห้ มีสติดีทุกอย่าง จากนั้นก็กลับบ้านและบอกกับสามีชาวมาเลเซียว่าตนเองเป็นมะเร็ง กลายเป็นสามีโมโหขึ้นมาทันที ไม่ได้ถามไถ่อะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะคิดว่าตนโกหก แอ็คติ้ง

ตนคิดว่าที่สามีโมโห คงคิดว่าตนสร้างเรื่องไม่ยอมให้เขากลับต่างประเทศไปร่วมงานแต่งงานของน้องสาว และก็ทะเลาะกัน สาวนุ๊กยอมรับว่า ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมสามีดูไม่รู้สึกตกใจอะไร และยังแสดงท่าทีโกรธตนอีกด้วย แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมาก จนกระทั่งมาเห็นหน้า น้องอดัม ลูกชายคนเล็ก ทุกอย่างก็พังลง ร้องไห้โฮ โผเข้าไปกอดลูก ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ร้องไห้ หลังจากรับรู้ว่าเป็นมะเร็ง


พอสามีเห็นร้องไห้ ก็พูดขึ้นมาว่า "ยังไม่ตาย จะร้องไห้ทำไม" และโมโห แต่ตอนนั้นจิตของตนอยู่ที่ลูก ไม่ได้อยู่ที่สามี จึงไม่ได้ไปทะเลาะด้วย ปล่อยให้เขาโวยวายไป เขาบอกว่ายังไงก็จะต้องกลับมาเลเซียให้ได้ และสามีคงไม่เชื่อว่าตนป่วยจริง คิดว่าคงแค่เล่นละคร สาวนุ๊กเผยว่า ก็ได้แต่สงสัยเขาอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ปล่อยเขาไป ไม่ได้คุยด้วยอีก

ทั้งนี้สาวนุ๊กได้ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่่ส่งมาให้ ซึ่งมีความหมายต่อตนมาก และทำให้ตนคิดว่าจะสู้ต่อไป ทั้งเพื่อลูกและเพื่อตัวเอง






ขอบคุณข้อมุลและภาพประกอบจาก : women.kapook,Instagram nook_suttida

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น