สรุปดราม่า หนึ่ง จักรวาล แตะต้องตัวลูกจนเกินงาม กับคำถาม เท่าไรถึงพอดี

        สรุปดราม่า หนึ่ง จักรวาล นักดนตรีและครูเพลงชื่อดัง แตะต้องตัวลูกจนเกินงาม แสดงความรักอย่างไม่เหมาะสม ทั้งที่ลูกจะโตเป็นสาวแล้ว จนต้องออกมาขอโทษ พร้อมกับเกิดคำถาม พ่อลูกแสดงความรักแบบไหน ถึงจะเรียกได้ว่าพอดี

เป็นดราม่าร้อนทะลุข้ามวันข้ามคืน กับกรณีของ หนึ่ง จักรวาล ครูเพลงและนักดนตรีมากความสามารถ ที่มีภาพหลายภาพที่แตะเนื้อต้องตัวลูกสาวในวัยย่างเข้าวัยรุ่น ในลักษณะที่ไม่เหมาะสม จนหลายคนออกคำตำหนิประณาม และกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนหนึ่งต้องขอโทษ ซึ่งวันนี้จะมาสรุปดราม่านี้ให้ฟังกัน

จุดเริ่มต้นจากคลิปจับก้น คนตามไปค้นจนรู้สึกไม่สบายใจ กับการที่หนึ่ง จักรวาล แตะเนื้อต้องตัวลูกสาวอย่างไม่เหมาะสม

เรื่องนี้เริ่มจากคลิปใน TikTok ที่หนึ่ง จักรวาล นำมาลง เป็นภาพของลูกที่เดินข้างหน้า และเขาก็จับก้นลูก และยังมีภาพกอดลูก โดยเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อลูกเพื่อจับพุง และจากนั้นจึงกลายเป็นดราม่า ที่หลายคนมองว่าการแตะเนื้อต้องตัวลูกด้วยวิธีนี้นั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

เมื่อดราม่าจุดติด คนก็ยิ่งวิจารณ์ว่าการกระทำของหนึ่งนั้นเข้าข่ายเสื่อมเสีย ถ้าเกิดกรณีนี้ในต่างประเทศ หนึ่งจะถูกกันไม่ให้เข้าถึงตัวลูก และเด็กจะถูกส่งต่อเพื่อบำบัดจิตใจ และยิ่งขุดลึกลงไปอีก ยิ่งได้เห็นหลายภาพหลายคลิป ที่หนึ่งกอด หอม จับ สัมผัส หรือการแสดงความรักต่อลูกในลักษณะที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง บางภาพหนึ่งคิดว่าเป็นเรื่องสนุกสนาน พ่อลูกสนิทกัน แต่เมื่อมองลงไปลึก ๆ แล้วไม่ใช่

หลายคนมองว่าเคสนี้ นอกเหนือจากการจับเนื้อต้องตัวลูกอย่างไม่เหมาะสมแล้ว ยังตีเป็นเคสของการล่วงละเมิดเด็ก ไม่สอนให้เด็กรู้จักสิทธิเหนือร่างกายของตัวเอง เมื่อเด็กโตขึ้นมามากกว่านี้ จะก่อให้เกิดปมในใจ เพราะเด็กจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูด เพราะคนที่จับนั้น ดันเป็นคนในครอบครัว

หนึ่ง จักรวาล ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น - ภรรยาเผย คลิปส่วนใหญ่คุณแม่ถ่ายเอง

เมื่อกระแสแรงขึ้นในโลกออนไลน์มาก ๆ เข้า หนึ่ง จักรวาล ก็ออกมาขอโทษทุกคน และยืนยันว่าตนยอมรับในความคิดเห็นที่มองว่าเรื่องที่ตนทำกับลูกสาวนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร และต่อจากนี้ตนจะระมัดระวังในการแสดงออกถึงความรักกับลูกสาว อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า การแสดงออกถึงความรักของคนในครอบครัวนั้น ควรมีขอบเขต และเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน

ด้านคุณตุ๊กติ๊ก ภรรยาของหนึ่ง จักรวาล บอกว่า คลิปที่บอกว่าจับก้นลูกนั้น จริง ๆ เกิดจากที่ลิฟต์เปิดแล้วลูกไม่เดิน หนึ่งเลยดันลูกให้เดิน แต่น้องตัวโตคนอาจจะคิดเป็นอย่างอื่น ในมุมของตน ลูกก็ต้องโตขึ้นเรื่อย ๆ เรารู้อยู่แล้วว่า พอลูกโตจะแสดงความรักแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว เรามีขอบเขตอยู่ว่า แสดงความรักได้แต่ไหน ทุกวันนี้ก็กอดหอมกันปกติ ตนยอมรับว่า แต่ละบ้านเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน หนึ่งยังบอกลูกเองเลยว่า โตขึ้น ป๊าจะกอดจะหอมแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ห้ามใส่กระโปรงสั้นนะ อย่าให้ใครหอม อย่าทำแบบนี้กับใคร และคลิปที่เห็นนั้น คุณแม่ถ่ายเอง

ผู้เชี่ยวชาญเผย พ่อแม่ลูกกัน แสดงความรักแบบไหนถึงพอดี - วิธีสอนลูกให้รู้จักสิทธิเหนือร่างกายของตัวเอง

ด้านเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้เผยให้เห็นว่า เราควรจะสอนลูกอย่างไรว่าสัมผัสตรงไหนได้ สัมผัสตรงไหนไม่ได้ เช่น ส่วนที่สัมผัสแล้วถือว่าดี คือ จับมือ แปะมือ ไฮไฟว์, ส่วนที่สัมผัสแล้วถือว่าไม่ค่อยดี คือ จับหัว จับแก้ม จับพุง จับเข่า จับเท้า และส่วนที่ถือเป็นส่วนห้ามสัมผัสเลยคือ หน้าอก อวัยวะเพศ ก้น เป็นต้น

ทั้งนี้ วิธีการสอนลูกนั้น คือจำแนกว่า การสัมผัสแบบนี้เป็นการสัมผัสที่ดี คือ หากเด็กรู้สึกดีเมื่อได้รับการกอดหรือหอมแก้มหรือจูบในส่วนที่จับได้ จากคนที่รัก เช่น เมื่อพ่อแม่กอดลูกหลังจากลูกตื่น หรือเมื่อพ่อหอมแก้มหรือจูบหน้าผากเพื่อส่งลูกเข้านอน หรือเมื่อคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายมาเยี่ยม แล้วทุกคนกอดกัน แต่ การสัมผัสที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี เช่น หากมีใครมาเตะ ตี หยิก ตบ หรือการได้รับการสัมผัสในส่วนที่ไม่ควรสัมผัส

ทั้งนี้ หากเด็กได้รับการสัมผัสในจุดที่ไม่ควรแล้ว ต้องบอกให้เด็กพูดปฏิเสธเช่น อย่าทำ หยุดเดี๋ยวนี้เลย ถอยไปไกล ๆ หรือ หนูไม่ชอบ หรือ อย่าจับหนูแบบนั้น และหากถูกจับเนื้อต้องตัวแบบนั้นแล้ว ควรบอกให้เด็กบอกพ่อแม่ คุณปู่คุณย่า บอกครู หรือบอกผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ที่เด็กไว้ใจ และอย่าให้เด็กสัญญาว่า จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ สอนเด็กว่า ใครก็ตามที่แตะเนื้อต้องตัวเด็กไม่ถูกไม่ควร เด็กไม่ควรจะรู้สึกผิด และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี แต่คนที่แตะเนื้อต้องตัวเราต่างหาก ที่เป็นคนไม่ดี ไม่ใช่เรา

ในขณะที่เฟซบุ๊ก บันทึกหมอเดว รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี เผยว่า กรณีการที่พ่อแตะเนื้อต้องตัวลูกอย่างไม่เหมาะสมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง และพ่อแม่ต้องเข้าใจว่า ลูกไม่ใช่ทรัพย์สมบัติที่จะทำอะไรแบบไหนก็ได้ พ่อแม่ต้องคอยปกป้อง คุ้มครองลูกให้ปลอดภัย ได้รับการพัฒนาและสามารถอยู่ร่วมในสังคมได้

สิ่งที่ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมคือ

- การไม่เคารพศักดิ์ศรีลูก

- ไม่สอนให้ลูกเกิดการเรียนรู้ Sense of property ด้วยการนำภาพของลูกลงสื่อสาธารณะ โดยไม่กังวลถึงผลที่จะตามมา แม้ลูกจะยินยอมก็ตาม

- พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักปกป้องคุ้มครองตัวเอง และฝึกให้ลูกสาวที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น และกำลังจะมีสรีระที่เปลี่ยนแปลงในไม่ช้า ปกป้องตัวเอง ไม่ใช่บอกว่าที่ทำไปเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรัก

- การละเมิดสิทธิเด็ก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนำลงสื่อสาธารณะ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำ

- เด็กสุ่มเสี่ยงต่อการเกิด sexual harassment และ a traumatic sexualization ที่ต่อไป เด็กจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ และเสี่ยงภัยในภายภาคหน้าต่อตัวเด็ก ๆ

- เด็กจะอยู่ร่วมในสังคมได้ลำบากมากยิ่งขึ้น

 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :women.kapook , Instagram jakkawal_1 ,เฟซบุ๊ก Drama-addict